WEB DEV OHM

ระบบเช่า

ระบบเช่าของ Pen9 (Web Dev OHM) คือบริการเว็บไซต์พร้อมใช้งานรายปี รวมโดเมนและโฮสต์ฟรี ตลอดระยะสัญญา ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม โดยราคาจะรวมทั้งเว็บและบริการดูแลเบื้องต้นให้แล้ว ระบบนี้เหมาะสำหรับผู้ที่อยากมีเว็บไซต์ใช้งานทันที ไม่ต้องจ้างพัฒนาใหม่ และมีทีมงานช่วยดูแลให้ตลอดระยะเช่า

หลังจากยืนยันว่าระบบพร้อมใช้งาน ระบบจะเริ่มนับอายุการเช่า 1 ปี พร้อมมี แดชบอร์ดติดตามงาน ให้ผู้ใช้ดูสถานะการทำงาน และการอัปเดตต่าง ๆ ได้เองแบบเรียลไทม์

ลูกค้าสามารถเลือกใช้เทมเพลตของเรา พร้อมปรับสี ธีม และภาพประกอบให้เหมาะกับแบรนด์ของตนเองได้ ทางเรายินดีให้คำแนะนำ บริการรวมถึง:

• การสำรองไฟล์ก่อนอัปเดตใหญ่
• แก้ไขเนื้อหาได้ 3 ครั้ง/ปี (ข้อความหรือรูปภาพ)
• หากต้องการเปลี่ยนโครงสร้างเว็บไซต์มีบริการเสริมรองรับ

ระบบซื้อเว็บไซต์

ระบบซื้อของ Pen9 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ เป็นเจ้าของเว็บไซต์พร้อมโค้ดเต็มระบบ เพื่อพัฒนาและใช้งานต่อเอง ลูกค้าจะได้รับชุดไฟล์ PHP พร้อมระบบจัดการ Header/Footer, CSS ใช้ซ้ำ, ระบบความปลอดภัยด้วย .htaccess และโครงสร้างไฟล์แยกชัดเจน

สามารถเลือกแค่ซื้อเทมเพลต หรือใช้บริการเสริมให้เราช่วยใส่เนื้อหาก็ได้ โดยสามารถปรับสี, ภาพ, ธีม ตามความต้องการ ได้เต็มที่ ระบบนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการยืดหยุ่นสูง มีความรู้การใช้งานเว็บไซต์ และต้องการนำไปปรับใช้ต่อยอดเอง

เงื่อนไขสำคัญ:

• แก้ไข ดัดแปลงได้
• ห้ามนำไปใช้เปิดเว็บขายแข่งขันกับทางร้าน
• มีบริการซัพพอร์ต 1 เดือน (ตอบคำถามผ่านช่องทางติดต่อเท่านั้น) ไม่มีรีโมตแก้โค้ด

ระบบสั่งทำเว็บไซต์

ระบบสั่งทำของ Pen9 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเว็บไซต์เฉพาะตัว ดีไซน์และโครงสร้างแบบ Custom 100% ลูกค้าสามารถเลือกทุกอย่างได้เอง ทั้งหน้าตาเว็บ, การจัดวาง, สี, ฟังก์ชัน และรูปแบบการใช้งาน โดยสามารถนัด Zoom เพื่อบรีฟรายละเอียดกับทีมงาน

เพื่อความชัดเจนและยุติธรรม ทางเรามีบริการประเมินและวางแผนระบบเบื้องต้น คิดค่าดำเนินการเริ่มต้นที่ 15,000 บาท ซึ่งครอบคลุมการวิเคราะห์, วางแผนระบบ, และจัดโครงสร้างโปรเจกต์อย่างละเอียด

ลูกค้าสามารถนำแผนนี้ไปใช้กับผู้ให้บริการรายอื่นได้ ทางเราไม่ขัดข้อง แต่จะสงวนสิทธิ์ คิดค่าใช้จ่ายส่วนนี้เสมอ เราเน้นการประเมินตามความเป็นจริง เพื่อให้ลูกค้าได้ระบบที่เหมาะสมกับงบประมาณที่สุด

ราคาเริ่มต้นจะแตกต่างตามความซับซ้อนของระบบ:

• หากเป็นเพียงเว็บไซต์แสดงผลทั่วไป ราคาจะอยู่ในเรทที่เหมาะสม
• หากต้องการระบบที่มี การล็อกอิน, การเชื่อม API, หรือเชื่อมบริการภายนอก (เช่น Google, OAuth) ราคาจะเริ่มต้นที่ ประมาณ 65,000 บาท

เปรียบเทียบระหว่าง Landing Page กับ Multi-page Website

เว็บไซต์หน้าเดียว กับเว็บไซต์หลายหน้า – แบบไหนเหมาะกับคุณ?เมื่อคุณต้องการมีเว็บไซต์เพื่อโปรโมตสินค้า บริการ หรือแบรนด์ของคุณสิ่งสำคัญอันดับแรกที่คุณต้องตัดสินใจคือ:จะเลือกใช้ Landing Page (เว็บหน้าเดียว) หรือ Multi-page Website (เว็บหลายหน้า)?แม้ทั้งสองจะดูคล้ายกันในแง่ของ “การเป็นหน้าเว็บไซต์” แต่จริง ๆ แล้ว ทั้งแนวคิด, โครงสร้าง, และวัตถุประสงค์การใช้งานต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ — และการเลือกให้เหมาะกับเป้าหมายของคุณ จะช่วยประหยัดงบ และเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด

Landing Page – พุ่งเป้าชัดเจนในหน้าเดียว

Landing Page คือเว็บไซต์ที่มีเพียง “หน้าเดียว” และออกแบบมาเพื่อจุดประสงค์ที่เฉพาะเจาะจง เช่น:

• การขายบริการหรือสินค้าหนึ่งอย่าง
• การเก็บข้อมูลผู้สนใจ (Lead Generation)
• การโปรโมตแคมเปญ, อีเวนต์, โปรโมชั่นพิเศษ
• การเป็นจุดเริ่มต้นของระบบเว็บในอนาคต

โครงสร้างของ Landing Page มักจะถูกจัดเรียงอย่างมีลำดับ — จากการแนะนำ, นำเสนอสินค้า, โปรโมชั่น, ช่องทางติดต่อ และปิดท้ายด้วยการชักจูงให้ตัดสินใจ เช่น ปุ่ม “ติดต่อเรา” หรือ “สั่งซื้อทันที” เหมาะกับใคร:

• ผู้เริ่มต้นธุรกิจ ต้องการมีเว็บไซต์แบบเร็ว ๆ
• งบประมาณจำกัด
• มีเพียงบริการเดียว หรืออยากให้คนโฟกัสแค่จุดเดียว
• สายโฆษณา/การตลาดออนไลน์ (เพราะ Landing Page แชร์ง่ายมาก)

Multi-page Website – โครงสร้างชัด เนื้อหาลึก ครบทุกด้าน

Multi-page Website คือเว็บไซต์ที่มีหลายหน้าแยกกันตามหมวดหมู่ เช่น:

• หน้าแรก (Home)
• เกี่ยวกับเรา (About)
• สินค้า/บริการ (Products/Services)
• บทความ (Blog)
• ติดต่อเรา (Contact) ฯลฯ

การมีหลายหน้าทำให้แต่ละเนื้อหาถูกแยกออกจากกันอย่างมีระบบ เช่น หน้าบริการหนึ่ง สามารถมีรายละเอียดของบริการ A, B, C พร้อมหน้าแยกเฉพาะแต่ละระบบได้ — หรือแม้แต่การเขียนบทความ SEO ก็ทำได้ง่ายกว่าเหมาะกับใคร:

• ธุรกิจที่มีหลายบริการ หรือหลายประเภทสินค้า
• ต้องการทำ SEO แบบจริงจัง
• ต้องการขยายต่อเป็นระบบเต็ม เช่น ระบบล็อกอิน ระบบบทความ ระบบสมาชิก
• ผู้ที่ต้องการสร้างความน่าเชื่อถือเชิงองค์กร หรือแบรนด์ที่เติบโตแล้ว